นักเตะผู้สานต่อคำว่า NEW ตำนาน
กาเร็ธ เบล กับ ไรอัน กิ๊กส์
นักเตะที่เด่นๆของประเทศเวลส์นั้นมีไม่มาก แต่ที่แน่ๆนั้น นักเตะระดับตำนานของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นคือรายของ ไรอัน กิ๊กส์ ที่เป็นตำนานปีกซ้ายระดับโลกของ เวลส์ เขามีเท้าซ้ายที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพอย่างมาก มีความเร็วในการเลี้ยงบอล เปิดบอลดี ยิงประตูคม เรียกว่าเขาเป็นหัวใจสำคัญในเกมรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กิ๊กส์ ประสบความสำเร็จอย่างมากในการเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่น่าเสียดายที่ว่าผลงานของเขาในการเล่นให้กับทีมชาติเวลส์นั้นมันไม่เปรี้ยงอย่างที่คิด
เป็นเวลาเกือบ 10 ปีเลยทีเดียวที่ตัวของ กิ๊กส์ คาดปลอกแขนกัปตันทีมชาติเวลส์ และเป็นเจ้าของเสื้อหมายเลข 11 ของทีมชาติเวลส์ แต่ว่าทีมชาติเวลส์ในยุคสมัยของเขานั้นไม่ใช่ทีมชั้นนำ พวกเขาไม่เคยผ่านไปเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่อย่างฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย หรือกระทั่งฟุตบอลยูโรรอบสุดท้ายเลย หลังจากที่ กิ๊กส์ อำลาการเล่นให้กับทีมชาติเวลส์และเข้าสู่วัยโรยรา แฟนบอลของเวลส์ก็มองว่า มันจะมีใครก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะที่สานต่อความสำเร็จของ กิ๊กส์ จนกระทั่งพวกเขาได้รู้จักกับ กาเร็ธ เบล ดาวรุ่งของสโมสร เซาแธมป์ตัน
แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น เบล ยังเป็นผู้เล่นตำแหน่งแบ็กซ้าย ยังไมได้เล่นเป็นปีกซ้ายอย่างเต็มตัว เขาเป็นนักเตะที่เลี้ยงบอลติดเท้า มีความเร็ว รูปร่างสูง หวังผลได้ในเรื่องการเปิดบอลที่แม่นยำราวกับจับวางมาก มีเท้าซ้ายที่ฉมัง ใช้งานได้ดีทั้งในการเปิดบอล ยิงประตู โดยเฉพาะกับการยิงไกล และยังรวมถึงฟรีคิกด้วยเช่นกัน หลังจากที่ เบล ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะในตำแหน่ง “ปีก” อย่างเต็มตัว เบล ก็ได้สานต่อเสื้อหมายเลข 11 ที่เดิมนั้นเป็นของ กิ๊กส์ รวมถึงปลอกแขนกัปตันทีม มาคาดไว้เพื่อนำทัพ เวลส์ ไปเล่นฟุตบอลยูโร 2016 ซึ่งนั่นคือการกลับคืนสู่ทัวร์นาเมนต์รดับนานาชาติเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีของทัพมังกรแดง และล่าสุดนี้ เขาก็ยิงประตูพาทีมไปเล่นฟุตบอลยูโร 2020 ได้อีกครั้งแล้ว เหลือแต่ว่าพาทีมไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ปีกวัย 30 ปียังทำไม่สำเร็จ แชมป์ในระดับสโมสร เขาสัมผัสมาหมดแล้วกับการเล่นให้กับ เรอัล มาดริด มันก็เหมือนกับที่ กิ๊กส์ ทำได้กับผีแดงนั่นเอง ก็จะพอพูดได้อยู่ว่า “นิวกิ๊กส์” รายนี้ ก้าวหน้าไปกว่ารุ่นพี่ของเขามากแล้ว
เอสเตบัน กัมบิอาสโซ กับ เฟร์นานโด เรดอนโด้
มิดฟิลด์ตัวรับชาวอาร์เจนตินาที่ลือชื่อนั้นมีอยู่มากมายหลายคน แต่หลายคนนั้นก็ยกย่องให้ตัวของ เฟร์นานโด เรดอนโด้ เป็นมิดฟิลด์ตัวรับชาวอาร์เจนไตน์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดเลยก็ว่าได้ เรดอนโด้ เป็นนักเตะถนัดซ้ายที่เล่นบอลได้ 2 สไตล์เลยทีเดียว เขาจะเล่นบอลดุดัน หรือเล่นสวยงาม เน้นแย่งบอลด้วยสกิลที่เหนือชั้นก็ได้ เขาครองบอลดี เปิดบอลแม่นยำทั้งลูกสั้นลูกยาว แม้ว่าจะเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ แต่เขาก็มีพลังในการเลี้ยงบอลทะลุทะลวง จ่ายบอลทะลุช่องคมกริบ แต่ก็มีปัญหาตรงเรื่องที่ว่า เขายิงประตูไม่เอาไหนจริงๆ
และนอกจากนี้ เรดอนโด้ ยังเป็นนักเตะศิลปินอย่างชัดเจน ไว้ผมยาว แถมยังมีใบหน้าที่หล่อเหลาเข้าขั้นนายแบบได้เลย มาดูกันที่ “นิวเรดอนโด้” นั่นคือตัวของ กัมบิอาสโซ เขาคือนักเตะตำแหน่งกองกลางตัวรับทีมชาติอาร์เจนตินาที่มีฝีเท้าน่าจับตามอง แม้ว่าจะไม่ได้เล่นบอลสไตล์สวยงามแบบที่ เรดอนโด้ เล่นและสร้างผลงานเอาไว้ แต่เขาก็มีจุดเด่นในตัวเองคือการตามประกบ การเข้าบอลที่หนักหน่วง คุมเกมได้ดี แถมไม่พอ เขายังถนัดเท้าซ้ายเหมือนกัน ผ่านบอลอาจจะไม่แม่นยำ แต่มันทดแทนด้วยการยิงประตูที่เด็ดขาดกว่า จนถึงตอนนี้ ก็มีการเปรียบเทียบกันพอสมควร ถ้าหากว่าเป็นแฟนคลับของ เรอัล มาดริด พวกเขาก็จะมองว่า เรดอนโด้ เก่งกาจกว่า กัมบิอาสโซ (แม้ว่ากัมบิฯ จะเคยเล่นให้กับ มาดริด ด้วยเช่นกัน) แต่ถ้าไปถามแฟนบอล อินเตอร์ มิลาน พวกเขาก็จะยกย่องฝีเท้าของ กัมบิอาสโซ มากกว่านั่นเอง
อาเดรียโน กับ โรนัลโด้ นาซาริโอ
นักเตะระดับ “ปรากฏการณ์” แบบตัวของ โรนัลโด้ นาซาริโอ ไม่ใช่ว่าจะหาดูกันได้ง่ายๆ เขาเป็นนักเตะกองหน้าที่สามารถเลี้ยงบอลเข้าไปยิงเองได้ ด้วยความเร็วนรกแตก ความแข็งแรง ความคมในการยิงประตูจากทั้งสองเท้า เทคนิคแพรวพราว จัดจ้านตามสไตล์แซมบ้า ทำให้เขากลายเป็นกองหน้าที่สมบูรณ์แบบอย่างมาก ดีกรีบัลลงดอร์ 2 สมัยของเขานั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแน่นอน แถมเขายังเป็นตำนานของทั้ง เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลนา
ในปัจจุบัน สถิติการยิงประตูสูงสุดในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เป็นของ มิโรสลาฟ โคลเซ่ แต่ก่อนหน้าที่โคลเซ่จะทำได้นั้น เจ้าของสถิติเดิมก็คือ โรนัลโด้ R9 ผู้นี้นั่นเอง
ในเมื่อมีตัวของ โรนัลโด้แล้วนั้น แฟนบอลมากมายก็ต่างถามหาถึง “นิวโรนัลโด้” ว่าใครจะเหมาะสมมาสานต่อตำนานของเขา ซึ่งแต่นอนต้องมีทีเด็ดบอลที่แจ๋วไม่แพ้ต้นฉบับ และหวยมันก็ออกที่ อาเดรียโน ดาวเตะซ้ายพลังช้างที่เล่นให้กับ อินเตอร์ มิลาน นั่นเอง อาเดรียโน มีโอกาสจับคู่กับ โรนัลโด้ ลงเล่นในทีมชาติบ่อยครั้ง แถมยังมาเล่นให้กับ อินเตอร์ ตามรอยรุ่นพี่อีกด้วย เขามีเทคนิคที่ยอดเยี่ยม ถึก แข็งแกร่ง แถมน่าจะเหนือกว่า R9 ตรงที่ เขายิงได้แรงมากจากเท้าซ้ายพิฆาตของเขา แต่น่าเสียดายที่เจ้าตัวไม่เคยไปถึงจุดสูงสุดแบบที่ R9 ทำได้
ซีเนอดีน ซีดาน กับ มิเชล พลาตินี
หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาแห่งความยิ่งใหญ่ของ มิเชล พลาตินี ตำนานจอมทัพหมายเลข 10 เจ้าของฉายา “นโปเลียนลูกหนัง” ทางวงการฟุตบอลฝรั่งเศสก็พยายามตามหา “นิวพลาตินี” มาโดยตลอด ตอนแรกพวกเขาเคยจะฝากความหวังเอาไว้กับตัวของ เอริค คันโตนา แต่ก็มีลีลาการเล่นที่แตกต่างจาก พลาตินี มากพอสมควร พลาตินี เป็นมิดฟิลด์ตัวรุกหมายเลข 10 ที่ถนัดสองเท้า ฟรีคิกฉมัง เปิดบอลแม่นยำทั้งลูกสั้นลูกยาว ยิงคม มีดีกรีเป็นนักเตะบัลลงดอร์ 3 สมัยติด เป็นราชันย์ของลีกอิตาลีอย่างชัดเจน เขาคือสุดยอดตำนานนักเตะของสโมสร ยูเวนตุส ที่ผ่านการคว้าแชมป์มาแล้วสารพัดรายการ และยังรวมถึงการคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 1984 ในนามทีมชาติฝรั่งเศสที่เขายิงได้มากถึง 9 ประตูจนเป็นเจ้าของรางวัลดาวยิงสูงสุดของทัวร์นาเมนต์มาแล้ว
ส่วนทางตัวของ ซีดาน ต้องเรียกว่าแชมป์บนโลกนี้นั้น เขาสัมผัสมาหมดแล้ว จะเป็นแชมป์ลาลีกา , แชมป์บอลถ้วยรายการนั้นนี้ , บัลลงดอร์ และแชมป์ฟุตบอลโลก , แชมป์ยูโร เขามีโอกาสได้สัมผัสเช่นกัน โดยเฉพาะกับรายการแชมป์โลกนั้นคือแชมป์ที่ พลาตินี ไม่เคยมีโอกาสสัมผัสกับมันเลย ซีดาน ไม่ได้เป็นพวกมิดฟิลด์บ้ายิงประตูแบบ พลาตินี แต่เขามีทวงท่าในการเลี้ยงบอลที่สง่างาม เล่นบอลง่าย จ่ายบอลฉลาด เล่นบอลถนัดสองเท้า และมีลูกยิงเวิลด์คลาสเหนือชั้นให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง เรียกว่าสไตล์การเล่นแตกต่างจาก พลาตินี ที่บ้ายิงประตูพอสมควร